"Will Smith" โดนแบนจากออสการ์ 10 ปี! แต่ยังสามารถเข้าชิงรางวัลได้
- Siriphan Prakhun
- 9 เม.ย. 2565
- ยาว 1 นาที
จากเหตุช็อควงการเมื่อ Will Smith เดินขึ้นไปตบหน้า Chris Rock บนเวทีออสการ์จนกลายมาเป็นประเด็นถกเถียงมากมาย และเป็นเหตุให้หลากหลายโปรเจกต์ของ Will Smith ถูกพับไป อีกทั้งเจ้าตัวยังตัดสินใจลาออกจากการเป็นสมาชิก Academy
ล่าสุดทาง Academy ได้มีการประชุมและตัดสินโทษแล้วเป็นที่เรียบร้อย โดย Will Smith จะถูกแบนจากทุกกิจกรรมของทาง Academy ซึ่งรวมไปถึงงานประกาศรางวัลออสการ์เป็นระยะเวลาทั้งหมด 10 ปี แต่เขาจะยังคงเก็บรางวัลที่รับเอาไว้ได้ และยังมีสิทธิ์ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงออสการ์ และโอกาสได้รับรางวัลอยู่
"งานออสการ์ครั้งที่ 94 นั้นถูกจัดขึ้นมาเพื่อเฉลิมฉลองให้กับเหล่าผู้สร้างที่ทำงานอย่างหนักตลอดปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ณ ช่วงเวลานั้นถูกกลบด้วยเหตุการณ์ที่ยากจะให้อภัยจากสิ่งที่คุณ Smith กระทำบนเวที
ระหว่างการออกอากาศ เราไม่ได้มีการชี้แจงถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างเพียงพอ เราจึงต้องขออภัยทุก ๆ ท่านมา ณ ที่นี้ และนี่คือโอกาสของทางเราที่จะเป็นแบบอย่างให้แขกต่าง ๆ, ผู้ชม และ ครอบครัว Academy ของเราจากทั่วโลก ให้ได้เห็นถึงข้อผิดพลาด และความไม่พร้อมรับมือกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
วันนี้บอร์ดบริหารของพวกเราได้ทำการประชุมเพื่อหาวิธีที่ดีที่สุดในการจัดการกับสิ่งที่ Will Smith ได้กระทำลงไปบนเวทีออสการ์ นอกเหนือจากการตอบรับการลาออกของเขา ผู้บริหารได้ตัดสินใจว่า 10 ปีต่อจากนี้ นับตั้งแต่วันที่ 18 เมษายน 2022 Will Smith จะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าร่วมกิจกรรมใด ๆ ของทาง Academy ซึ่งรวมไปถึงงานในรูปแบบ Virtual ด้วยเช่นกัน แต่จะไม่จำกัดสิทธิ์ในการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์
เราต้องขอแสดงความขอบคุณอย่างสุดซึ้งต่อคุณ Rock ที่ยังคงรักษาความสงบเอาไว้ได้แม้จะอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ปกติแบบนี้ และเราขอขอบคุณพิธีกร, ผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อ และผู้ที่ได้รับรางวัลออสการ์ สำหรับความสงบเรียบร้อยในระหว่างการถ่ายทอดสด
การกระทำในวันนี้ คือผลตอบรับของการกระทำของ Will Smith เพื่อเป็นการมุ่งสู่เป้าหมายที่ใหญ่ขึ้น เพื่อปกป้องเหล่านักแสดงและแขกผู้มีเกียรติของเรา และเพื่อฟื้นฟูความไว้วางใจของ Academy ให้กลับคืนมา เราหวังว่าสิ่งนี้จะเป็นการเริ่มต้นสามารถเยียวยาให้กับทุกคนที่เกี่ยวข้องและได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ได้” David Rubin ประธาน Academy และ CEO Dawn Hudson
ขอบคุณข้อมูล : JUST ดู IT.
ความคิดเห็น