มหกรรมกีฬาโอลิมปิก 2020 แม้จะผ่านการต่อต้านมาอย่างหนัก แต่สุดท้ายก็ผ่านมาจนถึงพิธีปิดโอลิมปิก ญี่ปุ่นจัดพิธีปิดภายใต้ธีม 'Worlds We Share' บรรยากาศการเฉลิมฉลองเริ่มด้วยพลุไฟสุดอลังการ
ก่อนที่ธงแต่ละประเทศ ได้รับการเชิญเข้าสู่สนาม โดยจะไม่มีลำดับใดๆ ทั้งสิ้นเพื่อสื่อถึงการฉลองความสำเร็จร่วมกัน จากนั้นประตูทั้ง 4 ทิศของสนามก็เปิดต้อนรับนักกีฬาทั้งหมดเข้ามาอิ่มเอมกับบรรยากาศสุดท้ายนี้
จากนั้นการแสดงอีกหลายรายการ รวมทั้งที่โดดเด่นคือการแสดงดวงไฟมากมายลอยขึ้นสู่ท้องฟ้าประกอบกันเป็นสัญลักษณ์ห่วง โอลิมปิก สื่อถึงจิตวิญญาณที่รวมอยู่ในตัวทุกคน รวมถึงร่วมรำลึกถึงคนที่ทำให้การแข่งขันครั้งนี้ผ่านพ้นไปได้ด้วยดีสร้างสรรค์งานให้เสร็จสมบูรณ์
ช่วงท้าย ยูริโกะ โคอิเคะ ผู้ว่าราชการกรุงโตเกียว ได้ส่งมอบธงต่อให้เจ้าภาพครั้งต่อไปคือ ฝรั่งเศส โดยเป็น โธมัส บาค ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกสากล ที่รับและส่งต่อให้ แอนน์ ฮิดัลโก นายกเทศมนตรีกรุงปารีส
อีกฟากธง โอลิมปิก ปารีส 2024 ถูกเชิญขึ้นหอไอเฟล ประเทศฝรั่งเศส ถือเป็นธงที่ใหญ่ที่สุดในโลกขนาดยาว 90 เมตร กว้าง 60 เมตร ท่ามกลางผู้คนหลายพันคนที่รวมตัวกันใกล้หอไอเฟล
ในวิดีโอที่บันทึกไว้ล่วงหน้า Thomas Pesquet นักบินอวกาศชาวฝรั่งเศส เป่าแซกโซโฟนเพลงชาติฝรั่งเศส ในสภาวะไร้น้ำหนัก จากสถานีอวกาศนานาชาติซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นสากลของการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก และเครื่องบินไอพ่นปล่อยควันสีน้ำเงิน สีขาว และสีแดง - สี ของธงชาติฝรั่งเศส - เหนือท้องฟ้าเมืองหลวง
ค่ำคืนจบลงที่ดอกไม้ไฟสว่างไสวเป็นครั้งสุดท้าย พร้อทกับกระถางคบเพลิงที่ดับไฟกับการขึ้นคำว่า "อาริกาโตะ" ขอบคุณทุกๆ คน