นายกิตติพงศ์ กิตติขจร ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ(ทสภ.) บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยว่า ขณะนี้สนามบินสุวรรรภูมิมีความพร้อมในการรองรับผู้โดยสารที่จะกลับมาเพิ่มขึ้นอีกครั้งหลังจากรัฐบาล โดยศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด – 19) หรือ ศบค. ได้ปรับมาตรการป้องกันและควบคุมโรคโควิด-19 สำหรับการเดินทางเข้าราชอาณาจักร โดยจะเริ่มให้ผู้เดินทางจากทุกประเทศทั่วโลกลงทะเบียนเพื่อขออนุญาตเข้าประเทศไทยโดยระบบ Test & Go ได้อีกครั้ง ตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.2565 เป็นต้นไป
สำหรับความพร้อมด้านบุคลากร ผู้ปฏิบัติงานจากทุกภาคส่วนที่ปฏิบัติงานในสนามบินนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการฉีดวัคซีนเข็มที่ 4 คาดว่าปลายเดือน ก.พ.นี้ จะสามารถฉีดได้ครบตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ 2.5 หมื่นคน นอกจากนี้ ทสภ. ยังมีการสุ่มตรวจคัดกรองผู้ปฏิบัติงานที่มีความเสี่ยงด้วยวิธี ATK เป็นประจำทุกสัปดาห์ เพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้บริการ
อย่างไรก็ตามหลังจากที่รัฐบาลมีนโยบายเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างประเทศอย่างเป็นทางการ ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.2564 – 29 ม.ค.2565 สนามบินสุวรรณภูมิต้อนรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าประเทศไทยรวม 381,871 คน แบ่งเป็น ผู้เดินทางผ่านระบบ Test & Go 317,754 คน ระบบ Sandbox 22,918 คน ระบบ Quarantine 7 วัน จำนวน 30,418 คน Quarantine 10 วัน จำนวน 9,950 คน และ Quarantine 14 วัน จำนวน 831 คน
นายกิตติพงศ์ กล่าวว่า สนามบินสุวรรณภูมิยังคงปฏิบัติตามมาตรการคัดกรองที่เข้มงวดตามแนวทาง Covid Free Setting ของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด โดยได้บูรณาการกับหน่วยงานต่างๆ อาทิ ศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน (COVID-19) ทสภ. (EOC) ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว สายการบิน และผู้ประกอบการโรงแรม
นอกจากนี้ในการให้บริการขนส่งผู้โดยสารไปยังโรงแรมที่จองล่วงหน้านั้น หากรถโรงแรมสำหรับผู้โดยสารระบบ Thailand Pass ไม่เพียงพอ สนามบินสุวรรณภูมิได้จัดเตรียมรถแท็กซี่ที่ผ่านมาตรฐาน Sha plus และ AOT Limousine ไว้ให้บริการผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศที่จองโรงแรมไว้ล่วงหน้าตามมาตรการที่ ศบค. กำหนด ภายใต้มาตรการควบคุมการส่งผู้โดยสารที่เข้มงวด
Σχόλια