วันที่ 4 ม.ค.2565 ที่ กระทรวงสาธารณสุข นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) ให้สัมภาษณ์ประเด็นสถานการณ์โควิด-19 หลังปีใหม่ ที่พบการติดเชื้อในหลายคลัสเตอร์ ว่า คลัสเตอร์ต่างๆ เกิดจากการที่ผู้ประกอบการ และผู้เข้ารับบริการ ละเมิดมาตรการที่รัฐบาลและกระทรวงฯ ย้ำเตือนตลอดเวลา
"หากเราไม่มีจิตสำนึก มีโรคระบาดเยอะๆ แต่ยังไม่ระวัง ยังรักความสนุกก็ทำความเดือดร้อนให้กับคนอื่น ซึ่งคนที่ปฏิบัติตามมาตรการ มีสำนึกต่อสังคมตลอดเวลาไม่เคยก่อปัญหา ดังนั้น เป็นสิ่งที่น่าเสียดายเพราะเป็นเรื่องที่ป้องกันได้ แต่ถ้าใครป่วย เราก็ได้แต่รักษา ไม่รู้จะไปเอาผิดยังไง เพราะเป็นเรื่องของจิตสำนึกรับผิดชอบต่อส่วนรวม" นายอนุทิน กล่าว
นายอนุทิน กล่าวว่า เราเห็นใจว่าสถานบันเทิง ผับบาร์ คาราโอเกะ ที่ยังเปิดบริการไม่ได้ เราก็อนุญาตให้ปรับเป็นร้านอาหารได้ แต่พอถึงเวลาจริงๆ เขาก็ไม่ทำ ดังนั้นผู้ที่อนุญาตในส่วนนี้ก็ต้องรับผิดชอบ ซึ่งทางตำรวจ ผู้ว่าราชการจังหวัด ต้องไปตรวจสอบ หากพบว่าไม่ทำตามที่ขอก็ต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย
"เมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ แน่นอนว่า ทางกรมควบคุมโรคก็ต้องคิดว่า ที่จะเปิดวันที่ 15 ม.ค. ยังจะเปิดได้อยู่หรือไม่ เพราะไม่มีการทำ Covid-19 free settings เลย และไม่ใช่จะบอกว่าจะมาตัดสินใจจากเพียงราย สองราย มันไม่ใช่ เพราะมันทั้งหมดเลย" นายอนุทิน กล่าว
เมื่อถามย้ำว่าการพิจารณาเปิดสถานบริการในวันที่ 16 ม.ค. จะมีแนวโน้มอย่างไร นายอนุทิน กล่าวว่า คงจะต้องพิจารณาให้หนักกว่านี้ ถ้าเป็นตนก็คงไม่ให้เปิด ซึ่งได้แต่เสนอความเห็น เนื่องจากอำนาจสุดท้ายไม่ได้อยู่ที่ตน
เมื่อถามถึงฉากทัศน์ว่าหากไม่ได้รับความร่วมมือก็อาจจะพบผู้ติดเชื้อถึงวันละ 3 หมื่นราย หลังปีใหม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ยังเป็นเพียงแค่กลุ่มเดียวที่ไม่ให้ความร่วมมือ แต่กิจกรรมเคาท์ดาวน์ ยังได้รับความร่วมมือจากประชาชน บางส่วนก็อยู่บ้าน ซึ่งช่วยได้เยอะมาก
"มีแต่กลุ่มที่ไม่มีความรับผิดชอบ ที่ทำให้เกิดปัญหาแทบทุกภาค แต่โชคดีที่รัฐบาลจัดวัคซีนให้ ถ้าไม่ได้รับคงแย่กว่านี้ ซึ่งขอย้ำเตือนว่า คนที่ยังไม่ได้รับ หรือรับไม่ครบ ก็อาจจะเป็นคนที่แพร่เชื้อเพิ่มขึ้น ดังนั้นต้องรีบมารับ" นายอนุทิน กล่าว
นายอนุทิน กล่าวยืนยันว่า เรามีความพร้อมในเรื่องระบบสาธารณสุข ที่สำคัญคือการเร่งฉีดวัคซีนให้ครบ 100 ล้านโดสในสิ้นปี 2564 เพราะหากวัคซีนไม่กระจายเต็มที่แบบนี้ คงวุ่นวายกว่านี้มาก
"รัฐบาลพยายามขอความร่วมมือ เอาใจเต็มที่ ทุกคนก็ให้ความร่วมมือ อนุญาตให้ปรับผับบาร์ คาราโอเกะ เป็นร้านอาหาร แต่พอถึงเวลาก็ยังเป็นผับบาร์ ดังนั้น ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องก็ต้องไปดำเนินการ" นายอนุทิน กล่าว
เมื่อถามว่าจะต้องใช้มาตรการบังคับหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า บังคับไม่ได้ กฎหมายไม่เปิดช่อง เราบังคับคนไม่กินเหล้า หรือไม่ออกจากบ้านไม่ได้ เราก็ขอความร่วมมือ สร้างความเข้าใจ
Comments