กลายเป็นประเด็นร้อนสำหรับ #เรียกเงินคืนโครงการรัฐ หลังจากสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ได้ส่งหนังสือเรียกคืนเงินกับร้านค้า ที่เข้าร่วมโครงการรัฐแต่ไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไข ซึ่งพบว่า หลายรายถูกเรียกเงินคืนหลักล้าน และสูงสุดถึง 17 ล้านบาท จนทำให้แฮชแท็กนี้ พุ่งติดเทรนด์ในทวิตเตอร์
โดยหนังสือจาก สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ได้ส่งมาแจ้งผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการเราชนะให้คืนเงิน โดยระบุเหตุผลว่า "เนื่องจากมีพฤติการณ์ที่เข้าข่ายไม่ปฏิบัติตาม หรือฝ่าฝืนหลักเกณฑ์ หรือเงื่อนไขของโครงการ และไม่ได้จัดส่งเอกสารชี้แจงโต้แย้งมาภายในระยะเวลาที่กำหนด ดังนั้น เพื่อให้เป็นไปตามความยินยอมที่ได้ให้ไว้ขณะเข้าร่วมโครงการฯ ให้คืนเงินภายใน 30 วัน นับจากวันที่ได้รับหนังสือนี้"
จากนั้น ในเอกสารดังกล่าวยังได้ระบุว่า หากไม่เห็นด้วย ร้านค้าสามารถยื่นอุทธรณ์ได้ภายใน 15 วัน ซึ่งผู้ประกอบการแต่ละราย มีถูกเรียกเงินตั้งแต่หลักแสนบาท ไปจนถึงหลักล้าน และจำนวนที่สูงที่สุดคือ 17 ล้านบาท โดยมีรายงานว่า สำหรับกลุ่มที่ถูกเรียกเงินคืนจะเป็นกลุ่มร้านที่รับแลกเงินสด และร้านค้าออนไลน์ และพ่อค้าแม่ค้าบางคน ก็โดนเรียกเก็บคืนเพราะช่วงที่แจกเงินนั้น เป็นช่วงโควิด และต้องใช้ช่องทางออนไลน์ในการขายสินค้า ร้านค้าออนไลน์ส่วนใหญ่ก็ผิดกฎด้วยการรับคนละครึ่ง หากไม่ทำก็อยู่ไม่ได้
จนทำให้ชาวเน็ตเสียงแตกว่า นี่อาจเป็นอีกสาเหตุที่หลายคนต้องการให้แจกเป็นเงินสดแทน เพราะเงินสดนั้นสามารถนำไปใช้จ่ายส่วนอื่น ๆ ได้ เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเช่าบ้าน ค่าน้ำมันรถ
Comentários